2021.02.28
ดาบพิฆาตอสูรที่ดูจากมุมมองของโดจิน
ในเดือนพฤษภาคมปี 2020 มังงะยอดนิยมเรื่องหนึ่งได้มาถึงตอนจบ
ใช่แล้ว นั่นคือ “Kimetsu no Yaiba หรือดาบพิฆาตอสูร”
ในระยะเวลา 4ปีที่มีการเผยแพร่ซึ่งไม่อาจพูดได้ว่าเป็นระยะเวลาที่นาน ชื่อของมังงะเรื่องนี้ ดาบพิฆาตอสูร ได้กลายเป็นที่รู้จักของชายหญิงทุกวัย และกลายเป็นผลงานมอนสเตอร์ที่คนทุกวัยต่างชื่นชอบ
ในครั้งนี้ อยากจะดูที่มาและการเปลี่ยนแปลงของดาบพิฆาตอสูร
ดาบพิฆาตอสูร คืออะไร?
ผู้อ่านหลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วโดยไม่ต้องบอก แต่เรามาดูโครงร่างของ ดาบพิฆาตอสูร กันก่อน
ละครเวทีในยุคไทโชและตัวเอกของเรื่อง “ทันจิโร่ คามาโดะ” อาศัยอยู่บนภูเขากับแม่และพี่น้องของเขา โดยทำงานเผาถ่าน แต่แล้วชีวิตประจำวันที่มีความสุขของทันจิโร่ก็เลือนหายไป ในคืนเดียวที่ทันจิโร่ไม่อยู่บ้าน ครอบครัวของเขาถูกสังหารโดยสิ่งที่เรียกว่า “อสูร”
ในโศกนาฏกรรมดังกล่าวน้องสาวคนเดียว “เนซึโกะ คามาโดะ” เอาชีวิตรอดมาได้
ทันจิโร่ลงไปด้านล่างของภูเขาพร้อมกับเนซึโกะเพื่อหนีเอาชีวิตรอด แต่เนซึโกะกลับกลายร่างเป็นอสูร ที่มีสภาพเดียวกันกับอสูรกายที่สังหารครอบครัวของเขา
ผู้ที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือทันจิโร่ซึ่งไม่มีทางรับมือกับเนซึโกะที่กลายเป็นอสูรได้ ก็คือ โยชิทาเคะโทมิโอกะ ชายที่สังกัดอยู่ในหน่วยพิเศษ จากนั้นภายใต้การแนะนำของเขา ทันจิโร่จึงได้เข้าร่วม “หน่วยสังหารอสูร” ซึ่งเป็นหน่วยที่สร้างขึ้นเพื่อปราบอสูรหลังจากที่มีการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง
ทันจิโร่เลือกที่จะต่อสู้กับอสูรในขณะที่เป็นคน เพื่อที่จะให้เนซึโกะกลับมาเป็นมนุษย์ แม้จะกลายร่างเป็นอสูร เนซึโกะก็ต่อสู้กับทันจิโร่โดยไม่ทำร้ายผู้คน ทั้งสองได้ผ่านภารกิจของคณะสังหารอสูร ได้พบเพื่อนและศัตรูที่แข็งแกร่งมากมายและกระโดดเข้าสู่การต่อสู้ที่รุนแรง
ดาบพิฆาตอสูรเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของตัวละครหลัก ความรักในครอบครัว และความผูกพันกับผองเพื่อน ในขณะเดียวกันก็มีเนื้อหาที่พิสดาร
ความจริงที่ว่า เนื้อหาของเรื่องไม่ได้มืดมน เมื่อเทียบกับเค้าโครงเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากลักษณะนิสัยของทันจิโร่ตัวเอกของเรื่องนั่นเอง
ตัวเอกของเรื่องที่สดใสและซื่อสัตย์ ที่มีความเข้มแข็งในการยืนหยัดต่อสู้กับความทุกข์ยาก
ผลงานที่มีความสมดุลระหว่างถนนแห่งธรรมและถนนแห่งความชั่วร้าย นั่นคือ ดาบพิฆาตอสูร
ดาบพิฆาตอสูรคือผลงานที่ยอดเยี่ยม
ตอนนี้เราก็อ่านเข้าใจเรื่องย่อกันแล้ว จากนี้จะมองย้อนกลับไปถึงที่มาของดาบพิฆาตอสูร
เนื้อเรื่องของดาบพิฆาตอสูร จนถึงปัจจุบันเป็นอย่างไรกันนะ?
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวภาคต่อที่ยากลำบาก
ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้า หากคุณดูเฉพาะเรื่องย่อจะเห็นว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างมืดมน
แม้แต่ในนิตยสาร Weekly Shonen Jump ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของการแบ่งเนื้อเรื่องเป็นตอน ก็สร้างบรรยากาศที่แตกต่างจากผลงานต่อเนื่องชิ้นอื่นๆ เล็กน้อย
หากถามว่าทุกคนเปิดรับการออกแบบแนวนั้นหรือไม่ คำตอบก็คงไม่ใช่อย่างนั้น
ในความเป็นจริง อาจมีหลายคนที่ไม่ทราบว่า ดาบพิฆาตอสูรซึ่งตอนนี้กำลังโด่งดังเป็นอย่างมาก เคยจะถูกยกเลิกกลางคันในปี 2016
ตัวผู้เขียนเอง ได้สมัครรับนิตยสาร Weekly Jump ในทุกสัปดาห์ตั้งแต่ที่มีการตีพิมพ์ตอนแรกๆของเรื่อง และได้เช็คความคิดเห็นของผู้อ่านบนบอร์ดข่าวขนาดใหญ่
ด้วยเหตุนี้ ยังคงจำได้ และรู้สึกเสียใจที่ได้เห็นความคิดเห็นที่ขมขื่นเช่น “อสูรมันกำลังจะถูกฆ่าไม่ใช่เหรอ” หรือ “เรื่องราวของอสูรมันไม่เหมาะกับนิตยสารJumpเลย”
ใช่แล้ว ตอนนั้นอันดับคะแนนโหวตของผู้อ่านดาบพิฆาตอสูรแย่กว่าทุกครั้ง
แน่นอนว่าผลการโหวตของผู้อ่านไม่ได้รับการเผยแพร่ แต่ผลลัพธ์ของการโหวต ได้ตีพิมพ์ให้เห็นถึงการจัดอันดับในหน้านิตยสารJump
ในเวลาเพียง 3สัปดาห์ นับจากการตีพิมพ์เผยแพร่ตอนแรกของดาบพิฆาตอสูร ได้หล่นไปอยู่ที่อันดับที่ 13 และหลังจากนั้นในช่วงหนึ่งปีที่มีการตีพิมพ์ 40ครั้ง เกินกว่า 60% หรือ 25ครั้งได้ตกอันดับ ไม่อยู่ใน 10อันดับแรกด้วยซ้ำ
นี่ก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอในการที่จะพิจารณายกเลิกเผยแพร่กลางคัน
ปีที่ 1 ของการสร้างรากฐาน และปีที่ 2 ของการยกระดับ
อย่างไรก็ตาม ดาบพิฆาตอสูรที่ตกต่ำ ก็ถึงจุดเปลี่ยนในปีที่2
พื้นหลังของทันจิโร่ ซึ่งเป็นรากฐานได้ถูกสร้างขึ้นอย่างมั่นคง และเพื่อนที่เป็นตัวหลักก็ปรากฏตัวขึ้นด้วย
จากนั้นก็เข้าสู่กระแสสำคัญที่ทำให้แกนหลักของเรื่องราวขับเคลื่อน
มีการแนะนำตัวละครมากมายทั้งในค่ายศัตรูและพันธมิตร ได้สร้างความพึงพอใจอย่างมาก
ในค่ายพันธมิตร เน้นความเป็นปัจเจกบุคคลมากกว่าการจัดอันดับ เน้นความงดงามและมีความแข็งแกร่งอย่างท่วมท้นเห็นได้จากตัวละครหลักทันจิโร่ที่มีพลังล้นเหลืออย่างที่ตัวเองไม่มี (เสาหลัก)
ในทางตรงกันข้ามในค่ายศัตรูมีการจัดอันดับที่ชัดเจน
ภัยอันตรายถูกกำหนดไว้ในลักษณะที่เข้าใจง่ายทั้งผู้อ่านและ ทันจิโร่(อสูรจันทรา)
ด้วยการพัฒนานี้ ทำให้เรื่องราวของดาบพิฆาตอสูรมีความเข้มข้นมากขึ้น
ในความเป็นจริงสำหรับ โคโยฮารุ โกโตเกะซังผู้แต่ง ผลงานชิ้นแรกที่ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารJump ก็คือเรื่องดาบพิฆาตอสูร
จากสถานการณ์ซึ่งไม่ได้รับความนิยมในปีแรก และอยู่ในสถานการณ์ที่อาจถูกยกเลิก จึงเป็นแรงกดดันที่ไม่อาจจินตนาการได้
อย่างไรก็ตาม โคโยฮารุ โกโตเกะซัง ความเชื่อมั่นของเขาไม่ได้ลดลงและเขาไม่ยอมแพ้ที่จะวาดส่วนพื้นฐานที่สนับสนุนพื้นของเรื่องราวทั้งหมดของเรื่องดาบพิฆาตอสูรต่อไป
จากนั้นในปีที่ 2 เรื่องราวก็ถูกยกระดับขึ้นอย่างยอดเยี่ยม
ปีที่ 3 เปลี่ยนเป็นอนิเมะเป็นหลัก ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
ในเดือนเมษายน 2019 ซึ่งเป็นปีที่ 3 การจัดลำดับขึ้นสู่จุดสูงสุดและอนิเมะดาบพิฆาตอสูร ได้เริ่มออกอากาศ
อนิเมะที่สร้างโดย ufotable ซึ่งดูแลกำกับผลงานยอดนิยมมากมาย มีความสมบูรณ์แบบในระดับสูง และการพากย์ที่ใช้นักพากย์เสียงชื่อดังก็ได้รับความนิยมอย่างมาก
เพลง “Gurenge” ที่ร้องโดย LiSA ซึ่งได้เปิดตัวเพลงฮิตมากมายในหมวดเพลงอนิเมะ และด้วยความสามารถของเธอ จึงได้รับความนิยมอย่างมากจากแฟน ๆ และในปีนี้เธอได้ใช้เพลง Gurenge ต่อสู้ในงานขาวแดงเป็นครั้งแรก
ด้วยวิธีการนี้ ดาบพิฆาตอสูร จึงวิ่งขึ้นบันไดไปสู่ผลงานยอดนิยม
เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์รายใหญ่สำหรับการจำหน่ายหนังสือได้ครองอันดับต้น ๆ ของยอดขายประจำวัน และในตอนท้ายของอนิเมะ ยอดขายสะสมของการ์ตูนเรื่องนี้ สูงกว่า 12 ล้านเล่ม
ยอดขายสะสมก่อนที่อนิเมะจะเริ่มฉาย มีประมาณ 4.5 ล้านเล่ม ซึ่งยังคงเป็นยอดขายที่ถือว่าดีในอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ในปัจจุบันนี้
ดาบพิฆาตอสูร ซึ่งมียอดขายค่อยๆเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่เปิดตัวการ์ตูน ยอดขายเพิ่มขึ้นสามเท่าในเวลาเพียงครึ่งปี เนื่องจากอิทธิพลของอนิเมะ
และในเดือนมิถุนายน 2020 ยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้เกิน 60 ล้านเล่ม
นั่นหมายความว่ายอดขายในเวลาเพียง 4 ปีนั้นเทียบได้กับมังงะยอดนิยมเรื่อง The Prince of Tennis นั่นก็คือมังงะที่สร้างมายาวนานซึ่งได้รับการตีพิมพ์เป็นภาคต่อตั้งแต่ปี 1999
ปีที่ 4 ของการขยายการพัฒนาในด้านต่างๆและกำลังจะถึงตอนจบของเรื่อง
ทันทีหลังจากอนิเมะจบลง ก็มีการประกาศตัดสินใจสร้างภาพยนตร์ภาคต่อ
ต้องขอบคุณการประกาศสร้างภาพยนตร์ ที่ทำให้ความร้อนระอุที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ยังคงคุกรุ่นอยู่ในใจของผู้คน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปเหมือนเดิม การทำภาคต่อของดาบพิฆาตอสูรก็สิ้นสุดลง
ในโลกอินเทอร์เน็ตต่างแตกตื่น
มีไม่กี่คนที่เชื่อว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยความเป็นที่ต้องการทั่วโลก แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกถึงจุดจบของเรื่องก็ตาม
และก็ทำให้ผู้เขียนก็นึกถึงเรื่อง “Bakuman” ขึ้นมา
เหมือนกับเอจินิซุมะซัง ที่วาดมังงะยอดนิยมตามที่เขาต้องการและจบเรื่องราวโดยไม่ลังเล
แม้ว่าผลงานยอดนิยมจะถูกเลื่อนตอนจบออกไปเป็นเวลานาน แต่คิดว่ามันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ ที่จะมีสักผลงานหนึ่งที่จบลงชัดเจนแบบนี้
และเรื่องราวยังคงแพร่กระจายออกไป
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า ดาบพิฆาตอสูรไม่ใช่แค่อนิเมะ แต่กำลังจะเปิดตัวภาพยนตร์ในปี 2020
แน่นอนว่าเพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพอ ยังคงเริ่มขยายขอบเขตของผลงานออกเป็นแขนงต่างๆ เช่น สร้างเป็นละครเวที, เกม และนวนิยาย
สำหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับดาบพิฆาตอสูร ก็ได้ขยายช่องทางการขาย ที่ไม่เพียงแต่ส่งไปยังร้านค้าเฉพาะ เช่น อนิเมดโตะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงร้านค้าต่างๆ เช่น Don Quijote และ TSUTAYA อีกทั้งตอนนี้เราสามารถเห็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับดาบพิฆาตอสูร ได้ทุกที่ในเมือง
จากความร่วมมือจนมีการวางขายในเครือร้านสะดวกซื้อ ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และผลิตภัณฑ์ที่มีการวางแผนร่วมมือ(คอลแลป)กับ Lawson ได้ถูกซื้อจนหายเกลี้ยงจากร้านค้าทั่วประเทศตั้งแต่วันที่เริ่มจัดจำหน่าย จนกลายเป็นประเด็นร้อน
เมื่อเรื่องราวในภาคสุดท้ายจบลง ทุกอย่างจะค่อยๆสงบลงหรือไม่?
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ากระแสผลักดันของดาบพิฆาตอสูร ที่กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ยังไม่หยุดนิ่ง
ดาบพิฆาตอสูรที่ดูจากมุมมองของโดจิน
ตอนนี้ เรามาดูหัวข้อหลัก ดาบพิฆาตอสูรจากมุมมองของโดจินกันเถอะ
เรื่องราวของคอสเพลย์ที่แพร่ขยายไปสู่ผู้คน
ในงาน C97 Winter Comiket ปี 2019 มีนักคอสเพลย์หลายคนที่เข้าร่วมแต่งคอสเพลย์ของดาบพิฆาตอสูร และมีการถ่ายรูปรวมอีกด้วย
นักคอสเพลย์ที่มีชื่อเสียงมากมายเข้าร่วมด้วย และจากงานนี้ก็ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่า ดาบพิฆาตอสูร ได้รับความนิยมมากแค่ไหนเช่นกัน
นอกจากนี้สองพี่น้องคาโนะ ผู้ที่ทำให้โลกเต็มไปด้วยคอสเพลย์สุดเก๋ ยังได้ปล่อยภาพถ่ายคอสเพลย์ดาบพิฆาตอสูรที่งาน Air Comike ซึ่งจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2020 อีกด้วย
ด้วยคุณภาพของคอสเพลย์ที่สูง จึงกลายเป็นประเด็นร้อนแรงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่สองพี่น้องคาโนะเท่านั้น แต่ยังมีคนในวงการบันเทิงต่างก็ชาเล้นจ์การคอสเพลย์ของดาบพิฆาตอสูร
จะเห็นได้ว่าความนิยมของดาบพิฆาตอสูร กำลังแพร่ขยายเข้าสู่โลกวงการบันเทิง
การเปลี่ยนแปลงจำนวนสเปซของเซอร์เคิลในงานขายของโดจินชิ
เมื่อดูสัดส่วนของเซอร์เคิลที่เข้าร่วมใน Comiket ประเภทของดาบพิฆาตอสูรแล้ว อัตราส่วนของผู้หญิงในเซอร์เคิลสูงอย่างท่วมท้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Aka Boo Boo (ต่อไปนี้จะขอเรียกว่า Aka Boo) ซึ่งมีแผนอีเวนต์โดจินสำหรับผู้หญิงมากมาย มักจะมีการจัดอีเว้นท์ของดาบพิฆาตอสูรเป็นประจำ และในปี 2020 จะมีการจัดอีเว้นท์ใหญ่ในช่วงเวลาเดียวกับงาน Super Comic Cityขนาดใหญ่
อีเว้นท์ดาบพิฆาตอสูร ที่จัดโดย Aka Boo จัดขึ้นที่โอซาก้าในเดือนมกราคมปี 2018 และมีเซอร์เคิลเข้าร่วมทั้งหมด 51 สเปซ
ในตอนนี้ ที่ยังไม่เป็นทางการ แต่เป็นเพียงการจัดงานขึ้นแบบเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่การจัดลำดับของดาบพิฆาตอสูร ก็ค่อยๆเป็นที่นิยมมากขึ้น
และในเดือนมิถุนายน 2018 การจัดงานครั้งที่ 2 ได้รับการยกระดับให้เป็นทางการ จำนวนเซอร์เคิลเพิ่มขึ้นเป็น 112 สเปซ และหลังจากนั้นจำนวนสเปซก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
และอีเว้นท์ที่จัดหลังอนิเมะออกอากาศ จะจัดขึ้นที่โตเกียวในเดือนกันยายน 2019 ขณะนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 4
ได้สร้างสถิติมีเซอร์เคิลเข้าร่วมถึง 400 สเปซ
จำนวนสเปซที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งแสดงให้เห็นว่า การออกอากาศอนิเมะได้จุดชนวนความนิยมของดาบพิฆาตอสูรไปในทิศทางเดียวกัน
หลังจากนั้นอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนสเปซก็สูงขึ้นอย่างมาก ตามสัดส่วนของยอดสะสมของหนังสือการ์ตูนที่ขายได้
ในปี 2020 อีเวนต์มากมายถูกยกเลิกเนื่องจากผลกระทบของโคโรนาไวรัส และอีเวนต์เฉพาะของดาบพิฆาตอสูร ที่กำหนดไว้บางส่วนถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไป
อย่างไรก็ตามจำนวนการสมัครเข้าร่วมของเซอร์เคิลสำหรับกิจกรรมเฉพาะของดาบพิฆาตอสูร ได้เพิ่มสูงมากจนถึงจุดที่มากกว่า 1,000 สเปซ จนถึงขีดสุดของการรับสมัคร
นอกจากนี้ในการสั่งซื้อโดจินชิสำหรับผู้หญิง บนเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ของ Toranoana Girls ‘Club ร้านค้าโดจินยอดนิยม ปัจจุบันมีการลงทะเบียนโดจินชิ สำหรับทุกวัยรวมถึงวัยผู้ใหญ่ มากกว่า 4,000 รายการ
นี่เป็นการกระจายตัวเลขที่ใกล้เคียงกับ “Touken Ranbu” และ “Hypnosismic” ซึ่งเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับผู้หญิงเลยทีเดียว
เมื่อดูเนื้อหาโดยละเอียดแล้ว สังเกตได้ว่าดาบพิฆาตอสูร มีสัดส่วนของโดจินชิสำหรับทุกวัยมากกว่าประเภทอื่นเล็กน้อย
ซึ่งที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องอยู่ก็คือ แม้แต่ในประเภทของดาบพิฆาตอสูรเอง ก็มีหลายเซอร์เคิลที่กำหนดMain Couplingไว้ที่ตัวละครทุกตัว
ด้วยเหตุนี้ Couplingที่มีชื่อเสียงและเป็นนิยม ที่เราเคยเห็นในรูปแบบหรือการ์ตูนเรื่องอื่นๆ แทนที่จะสนุกสนานกับทุกๆเรื่องทุกๆแนว แต่โดจินชิแทบจะทุกตัวละคร ต่างก็มาซัพพอร์ตดาบพิฆาตอสูร
ก็ไม่แน่ใจว่าแบบไหนดีกว่ากัน แต่อาจมีนักเขียนหลายคนที่ต้องการผลักดันสนับสนุนผลงานทั้งหมดของดาบพิฆาตอสูร มากกว่าที่จะมาสนับสนุนเหล่า Couplingอย่างจริงจัง …
ในการจัดประเภทของ Comiket แล้ว ดาบพิฆาตอสูร อยู่ในรูปแบบของ FC (Jumpและอื่น ๆ )
แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงการรอเวลาที่จะเป็นอิสระโดยการแตกเป็นรูปแบบใหม่
แม้ว่า Comicฤดูร้อน C98 ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่อยากจะให้จับตาดูกับการแบ่งประเภทของComicฤดูหนาว C99
ก็ไม่รู้ว่าตอนจบของภาคสุดท้าย จะส่งผลต่อความนิยมของดาบพิฆาตอสูรอย่างไร
แต่ความนิยมของ ดาบพิฆาตอสูร ที่คาดว่าจะยังคงมีบทบาทอย่างต่อเนื่องในอนิเมะหรือภาพยนตร์ภาคต่อหลังจากที่ภาพยนตร์ออกฉายไปแล้ว จะยังคงไม่ลดลงง่ายๆ
สรุป
ดาบพิฆาตอสูร ที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทางสังคมเป็นผลงานของมอนสเตอร์อย่างแน่นอน
ผลงานแบบนี้ ที่ภาคต่อจบลงในขณะที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีคนอยู่จำนวนไม่น้อยที่ตกอยู่ในความรู้สึกสูญเสีย
ถึงแม้ว่า ดาบพิฆาตอสูร จะจบลงแล้ว แต่ยังคงมอบโลกใบใหม่ให้กับเราผ่านรูปแบบต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ อนิเมะ รวมถึง ภาคแยกย่อย
ฉะนั้นยังเร็วเกินไปที่เราจะยอมแพ้
เนื่องจากผลกระทบของโคโรนาไวรัส ทำให้ผู้คนจำนวนมากใช้โปรแกรม ” Zoom ” ในการทำงานที่บ้าน
Virtual background ของ Zoom ได้ถูกเผยแพร่ในเนื้อหาของช่องต่างๆในวันก่อนกลายเป็นเทรนด์
Ufotable ผู้ดูแลการผลิตดาบพิฆาตอสูร เองก็ได้เปิดตัว Virtual background ของดาบพิฆาตอสูรโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
แน่นอนว่า พื้นหลังดังกล่าวเป็นเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ การนำไปแก้ไขดัดแปลงหรือตัดต่อจึงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ว่าทันทีหลังจากเปิดตัว Virtual background เหล่าแฟนคลับหลายๆคน ได้อัปโหลดภาพพื้นหลังที่ผ่านการตัดต่อแต่งรูปลงใน SNS
ความวุ่นวายดังกล่าวมักพบเห็นได้ในอดีตที่ผ่านมา และบางครั้งก็มีการเยาะเย้ยบนอินเทอร์เน็ตว่าแฟนๆของดาบพิฆาตอสูรเป็นพวกเลเวลต่ำ
ดาบพิฆาตอสูรเป็นที่รักของคนหลากหลายวัย และดูเหมือนว่าจะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดี จากการกระทำของแฟน ๆ จำนวนมากที่ยังเด็กยังไม่โต
อย่างไรก็ตาม การโดนดูถูกถากถางผลงานที่หลายๆ คนชื่นชอบไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า
ผู้ใหญ่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากชี้แนะเด็กๆ
เหมือนกับดาบพิฆาตอสูร ซึ่งเนื้อหาในตอนเริ่มต้นยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่เมื่อเติบโตขึ้นก็กางสยายปีก และยังคงเจริญเติบโตต่อไป
ถ้าเช่นนั้น เราควรกล่าวตักเตือนและชี้แนะแฟนๆที่ยังเป็นเด็กจะดีกว่า
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เราก็มาเติบโตไปด้วยกันกับดาบพิฆาตอสูรเถอะนะ
ดาบพิฆาตอสูร จะแสดงให้เห็นถึงโลกแบบไหนในอนาคตกันนะ รู้สึกอดใจรอไม่ไหวแล้ว
Follow @doujinworld
Writer
Shiro Sato