🇹🇭
🇹🇭

2021.04.02

[นักคอสเพลย์ : โทชิรุ] สวัสดีฉันคนใหม่

 

 

หากเปิดประตู ก็จะไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีกต่อไป

 

โลกใหม่คือโลกที่ประตูเปิดออกในตอนที่คุณไม่เคยคาดคิดมาก่อน ไม่สนใจว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แม้ว่าจะเป็นคอสเพลย์แต่งหญิงก็ตาม …

 

โทชิรุซังที่ปรากฏตัวขึ้น เป็นนักคอสเพลย์ของVOCALOID ฮัตสึเนะมิกุ  อา… ตัวฉันเองก็กำลังจะเปิดประตูบานใหม่ … ฉันกำลังจะพ่ายแพ้ต่อสิ่งล่อใจ ก็เพราะKAWAII(ความน่ารัก) คือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้นี่นา?

 

แต่ที่น่าสงสัยคือ ทั้งที่เป็นผู้ชายแล้วทำไมถึงคอสเพลย์เป็นมิกุซังล่ะ? และทั้งที่มีตัวละครชายมากมายใน VOCALOID

 

แพ็กเกจเครื่องแต่งกายสำหรับ “Hatsune Miku V4X”

 

“มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลย ความจริงผมไม่ได้อยากจะคอสเพลย์ด้วยซ้ำ แต่ตอนสมัยที่ผมยังเป็นนักเรียน บังเอิญว่าในชั้นเรียนตอนนั้นมีการพูดคุยว่าไม่มีเรื่องอะไรน่าสนใจให้ทำเลยหรือไงนะ  ไม่ใช่การที่ตั้งใจเรียนอย่างจริงจังเท่านั้น รู้สึกว่าเท่านั้นมันยังไม่พอ … แล้วตอนนั้นผมก็บอกว่า ทุกคนมาเล่นเป่ายิ้งฉุบกัน คนแพ้จะต้องแต่งคอสเพลย์มาโรงเรียน”

 

ไปโรงเรียนในสภาพที่แต่งคอสเพลย์ … เพียงคนเดียวในชั้นเรียน … หากครูเดินเข้ามาพร้อมกับพูดว่า “เฮ้ ไปนั่งที่” ในชั้นเรียนคงจะกลายเป็นท้องฟ้าสีคราม เรื่องราวของโทชิรุซังได้เผยออกมาแล้ว และเราก็พอจะอ่านเรื่องราวของประตูบานถัดไปออกแล้วละว่าจะเป็นอย่างไร…

 

“แต่ผมไม่ได้แพ้อยู่อันดับสุดท้ายนะ! แต่อยู่ที่2 โดยนับจากลำดับสุดท้ายน่ะ ด้วยความที่ทุกคนรู้จัก VOCALOID ผมก็เลยเลือกให้แต่งเป็นฮัตสึเนะมิกุที่ดังมาก  ผู้แพ้ที่ได้ลำดับสุดท้ายตัวใหญ่มากหรือจะเรียกว่ายักษ์ก็ได้ ผมเลยสั่งเสื้อผ้าไซส์5L.. แต่ก็ติดกระดุมหน้าไม่ได้ พอยัดแขนเข้าไปก็มีเสียงผ้ากับตะเข็บขาดออก สุดท้ายก็ใส่ไม่ได้อยู่ดี”

 

ไม่อยากเชื่อเลยว่าไซส์ 5L ยังใส่ไม่ได้ คนที่จะแต่งเป็นฮัตสึเนะมิกุ เป็นยักษ์หรือเปล่าเนี่ย? แต่ชุดที่ซื้อมาก็เสียเปล่างั้นสิ?

 

“ด้วยความที่รู้สึกเสียดายชุด และคนที่จะถูกลงโทษในเกมคนถัดไป  อันดับที่2 ถัดจากคนสุดท้ายก็คือผม และผมก็พูดอะไรไม่ออก… หนีก็ไม่ได้ด้วย”

 

อา … ควรจะเรียกว่าเทพธิดาแห่งโชคชะตากลั่นแกล้งหรือเปล่านะ … โทชิรุซังบอกว่าเขาต้องใส่ชุดขนาด5Lในขณะที่อยู่ในโรงเรียน

 

“ด้วยเหตุผลนี้ ถือว่าเป็นการได้ลองแต่งคอสเพลย์ครั้งแรก แต่ก็รู้สึกว่ามันสนุกมาก! จากนั้นผมก็เริ่มแต่งคอสเพลย์ในงาน Comiket จากที่นั่นก็ได้รู้จักคนมากขึ้นเรื่อยๆ และก็ได้เริ่มเข้าร่วมงานถ่ายภาพ รู้สึกได้เลยว่าโลกได้ขยายตัวกว้างขึ้น”

 

ความรู้สึกเมื่อใส่แขนเข้าไปในเสื้อเป็นครั้งแรก ก็ได้ทิ้งความลังเลไปจนหมดสิ้น  มนุษย์เมื่อเปิดสวิตซ์จนเครื่องติดแล้วก็ยากที่จะหยุด หลังจากนั้นโทชิรุซังก็ได้สัมผัสกับโลกของฮัตสึเนะมิกุอย่างเต็มที่

 

เครื่องแต่งกาย “Rockin Stone” ในเกมแนวริธึมของ ฮัตสึเนะมิกุ

 

 

 

ถ้าไม่มีก็แค่ทำมันขึ้นมา! การตัดเย็บไม่เกี่ยวว่าเป็นเพศไหน

“ก่อนที่จะเริ่มมาแต่งคอสเพลย์ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับVOCALOID มาแค่นิดหน่อย แต่หลังจากที่เริ่มแต่งคอสเพลย์ก็มีความพิถีพิถันเป็นพิเศษขึ้นมา ผมมีความคิดที่ว่า สิ่งไหนที่รู้สึกชอบในส่วนของเครื่องแต่งกายของมิกุซัง หากไม่มีขายก็ต้องทำมันขึ้นมาเองให้ได้ … ”

 

ในการสัมภาษณ์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ เราได้พูดคุยกับนักคอสเพลย์หลายคน คำพูดที่ว่า “ถ้าไม่มีก็ทำมันขึ้นมาเอง”เป็นคำพูดปกติสินะ ก็มันเป็นความจริงนี่นา

 

“ตอนแรกเป็นอะไรที่ยากลำบากมากจริงๆ แม้ว่าผมจะค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่เข้าใจอยู่ดี การติดพวกของตกแต่งก็ติดผิดทิศทางและผิดพลาดอยู่ตลอด แต่มีเพื่อนที่แต่งคอสเพลย์คอยบอกคอยสอน จนผมก็ค่อยๆปรับปรุงทีละนิด นาน ๆครั้งเราจะพูดคุยกันผ่านSkype และก็มีการทำเครื่องแต่งกายไปด้วย ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรมีเพียงเสียงจักรเย็บผ้าเท่านั้นที่ดังอยู่… (หัวเราะ) ”

 

ในตอนแรกคอสเพลย์ซึ่งเป็นเพียงการล้อเล่นขำขัน แต่ตอนนี้กลับพลิกกลายเป็นเรื่องจริงจัง … รู้สึกว่าเป็นอะไรที่เจ๋งดี

 

“จนถึงตอนนี้ผมทำไปแล้ว 28 ชุด ส่วนใหญ่เป็นชุดของ VOCALOID แต่ก็มีคอสเพลย์ของเกมแอปพลิเคชั่นArknights และ Granblue Fantasyด้วย จริงๆแล้วผมไปงาน Miku Expo ที่จัดขึ้นที่นิวยอร์กเมื่อ 2 ปีก่อนกับเพื่อนๆ และได้ทำเครื่องแต่งกายบนเครื่องบินเพื่อไปคอสเพลย์ด้วย ที่นั่นมีนักคอสเพลย์ชาวญี่ปุ่นแค่ 4 คน จึงทำให้เด่นสะดุดตา เลยมีคนท้องถิ่นมาพูดคุยด้วย และก็มีการแลกเปลี่ยน Twitter กัน เป็นความทรงจำที่ดีเลยละ ถึงแม้จะมีความลำบากอยู่บ้าง แต่มันเป็นทริปที่ผมได้บอกกับตัวเองว่า “ผมจะตามมิกุซังไปทุกที่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม!””

 

แม้จะเป็น Miku Expo ในนิวยอร์ก ก็จะแต่งคอสเพลย์และถ่ายภาพออกมา!

 

จากการที่ไปนิวยอร์ก ทำให้สามารถพูดคุยกับแฟนๆของมิกุซังในต่างประเทศได้

 

 

 

ฮัตสึเนะมิกุซัง กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

การกระพือปีกจนข้ามทะเล … มีความกลัว แต่อย่างไรก็ตามทำไมโทชิรุซัง ผู้ซึ่งเคยเพียงแค่ “ฟัง VOCALOID นิดหน่อย” ถึงได้มีความมุ่งมั่นแรงกล้าขนาดนี้?

 

“อืม… แม้ว่าผมจะแค่ฟังเพลงแต่ใช้เวลาในการดูวิดีโอ นานถึง1-2ชั่วโมงเลยนะ ก็เป็นอย่างนั้นมาเรื่อยๆ แต่เมื่อผมทำชุดแต่งกายก็หมกมุ่นมาก ถึงจะเป็นเวลาหลังเลิกงานที่เหนื่อยหรือแม้แต่ในวันหยุดก็ยังทำ พอเห็นความสมบูรณ์ทีละเล็กทีละน้อย ก็รู้สึกตื่นเต้นอยากจะสวมชุดนั้นเร็วๆจนหยุดทำไม่ได้ เวลาว่างทั้งหมดของผม ได้กลายเป็นมิกุซังอย่างไม่รู้ตัว …และนี่คือผลที่เกิดขึ้น (หัวเราะ)! ”

 

อืมเข้าใจแล้ว! ถึงจะพูดออกมาแบบนั้นแต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าเข้าใจจริงหรือเปล่า … แต่ถ้าสิ่งที่ฉันชอบมันก้าวข้ามความรู้สึกชอบจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สิ่งนั้นอาจจะเรียกว่าโอตาคุก็ได้ สุดท้ายนี้คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับซีนของVocaloid ในปัจจุบัน?

 

ชุดSnow Miku 2017 รูปภาพที่ราวกับโลกแห่งความฝัน

 

“เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้วที่ ฮัสสึเนะมิกุซัง ปรากฏตัวและมันอาจจะถึงจุดพีคสุดไปแล้วสักครั้งนึง แต่ในตอนนี้การออกไปข้างนอกหรือพบปะผู้คนเป็นเรื่องลำบาก แต่ผมยังรู้สึกว่า VOCALIOD เป็นวัฒนธรรมที่เปล่งประกาย พยายามสร้างการแสดงออกในความตัวเองโดยการใช้เสียง “VOCALIOD Hatsune Miku” ซึ่งเป็นโอกาสที่จะได้พบกับตัวตนใหม่ ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่เป็นอยู่ ถึงผมทำเพลงไม่ได้แต่มีซอฟต์แวร์ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้พูดถึงหรอกแต่เพียงแค่มีซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ทำให้เป็นภาพ ฮัตสึเนะมิกุในแบบของทุกคนได้ ซึ่งแต่ละผลงานก็กลายเป็น “มิกุซังของเรา” VOCALOID ที่เราภาคภูมิใจในโลกนี้ ก็คงเป็นเรื่องน่าสนุกตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก”

 

ชุดที่เขาสวมในการให้สัมภาษณ์ เป็นคอสตูมที่ชื่อว่า Star Voice

 

 




Writer

Shiro Sato

Related Posts