2021.02.14
【ช่างภาพคอสเพลย์:Blackbeard】โอตาคุญี่ปุ่น … พร้อมลุยกันเลย!!
คุณ Blackbeard ผู้ที่แนะนำวิธีการถือกล้องเพื่อไม่ให้ภาพเบลอแก่เรา
ขอแนะนำให้รู้จักกับช่างภาพคอสเพลย์รูปหล่อสไตล์เอเชีย!
คุณBlackbeard อายุ 31ปี เดินทางจากฟิลิปปินส์ มายังญี่ปุ่นตั้งแต่ตอนอายุ 14 ปี เขาเป็นลูกครึ่งโดยมีคุณพ่อเป็นชาวญี่ปุ่นและคุณแม่เป็นชาวฟิลิปปินส์ ปัจจุบันเขาพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่องแคล่ว แต่ตอนช่วงแรกที่เขามาญี่ปุ่นเขาพูดได้แค่ “โอฮาโยโกไซมัส” ซึ่งทำให้มีความยากลำบากและปัญหามากมาย แต่กระนั้น คุณBlackbeard ก็เริ่มเข้าสู่โลกของโอตาคุ ตอนที่เขายังเป็นนักเรียนมัธยมปลาย
“เพื่อนของผมชวนไปงานจับมือไอดอล ซึ่งก็คือ AKB48 เนื่องจากที่ฟิลิปปินส์ไม่มีวัฒนธรรมไอดอล จึงทำให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ นั่นเป็นเหตุผลว่า ตอนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยผมจึงหลงรักในไอดอล และมักไปที่อากิฮาบาระอยู่เสมอ”
เมื่อคุณก้าวเข้าไปเหยียบในอากิฮาบาระ ร้านเมดคาเฟ่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกหนีพ้นได้เลย และคุณBlackbeard ก็ตกเป็นหนึ่งในนั้
“และผมก็ติดเมดคาเฟ่มากเลยแหละ จนไปที่นั่นหลายครั้ง แล้วบังเอิญเจอเมดคนหนึ่งบอกว่าแต่งคอสเพลย์อยู่ และเมดคนนั้นยังแนะนำอีกว่า พวกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายผู้หญิงดูเหมาะกับคุณนะ ตอนแรกผมก็รู้สึกงงๆว่าเอ๊ะ ยังไง? แต่คือผมมาจากฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่วัฒนธรรมสาวประเภทสองหรือการแปลงเพศมีความแพร่หลาย ผมจึงไม่ได้รู้สึกต่อต้านเท่าไร (หัวเราะ) ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมอายุประมาณ 25 ปีล่ะมั้ง การกำจัดขนหน้าแข้ง เป็นอะไรที่มีความยากและลำบากมากๆ ก็เลยต้องใส่ถุงเท้า 2ชั้น”
คุณBlackbeard ที่แต่งกายแบบผู้หญิง ต้องมีความน่ารักอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าคุณBlackbeard จะไม่สามารถให้ดูรูปถ่ายในตอนนั้นได้ แต่ด้วยความที่เขามีหน้าตาแบบลูกครึ่งเอเชียตะวันออก ฉันแน่ใจว่าฉันชอบแน่ๆ และตั้งแต่ตอนนั้นมา คุณBlackbeard ก็ได้เข้าร่วมในงานคอสเพลย์ต่างๆมากมาย
การเปลี่ยนแปลอย่างสวยงามจากนักคอสเพลย์ ไปสู่ช่างภาพคอสเพลย์
เขาได้พูดถึงความเป็นมาของตัวเองอย่างหมดเปลือก
เมื่อเข้าร่วมงานคอสเพลย์ ก็มักจะเห็นนักคอสเพลย์ที่น่าหลงใหลอย่างคาดไม่ถึง ไม่เพียงแต่ในแง่ของคุณภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพฤติกรรมท่าทางด้วย ดูเหมือนราวกับว่า กระโดดออกมาจากโลกของอนิเมะจริงๆ จนทำให้รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เห็น
“เมื่อผมเข้าร่วมอีเว้นท์ ก็มักจะติดตามนักคอสเพลย์ ที่เป็นตัวละครในอนิเมะเรื่องโปรดของตัวเอง มันสวยงามและน่าทึ่งมาก … รู้สึกนับถือในความงดงามและศิลปะนั้นจริงๆ จนอยากจะเก็บความงามนั้นไว้ในภาพถ่าย ด้วยเหตุนี้แหละ ผมจึงเลิกแต่งคอสเพลย์และเปลี่ยนมาถือกล้องถ่ายรูปแทน”
ทัศนคติที่อยากให้ระมัดระวังในฐานะของช่างภาพคอสเพลย์คืออะไร?
คุณBlackbeard บอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกแย่กับการถูกเรียกว่า ช่างภาพคอสเพลย์ แต่เขาบอกว่าพฤติกรรมบางอย่างของช่างภาพที่ “มีเจตนาแอบแฝง” สามารถทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจได้
“ผมอยากถ่ายภาพความสวยงามของนักคอสเพลย์คนนั้นๆ อยากถ่ายช่วงเวลาที่ผมรู้สึกว่าสวยที่สุด แต่ในกลุ่มของช่างภาพคอสเพล์เอง บางคนก็ดูเหมือนว่า มาถ่ายกางเกงในหรอ? ซึ่งก็มีบางคนที่ทำแบบนั้นจริงๆ ผมรู้สึกต่อต้านนะที่จะถูกเหมารวมกับคนแบบนั้น ในประเทศบ้านเกิดของผมที่ฟิลิปปินส์มีการฉายอนิเมะญี่ปุ่นจำนวนมาก แต่วัฒนธรรมโดจินยังไม่ได้แทรกซึมเข้าไปมากขนาดนั้น … ดังนั้นเมื่อครอบครัวของผมที่อาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์ เดินทางมาที่ญี่ปุ่น ผมพาพวกเขาไปที่ Comiket พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็นและดูสนุกมาก ผมคิดว่ามันเป็นวัฒนธรรมที่น่าภาคภูมิใจในโลก ดังนั้นมันจะดีกว่ามั้ย ถ้าเราทำสิ่งที่ไม่ได้เป็นเรื่องน่าอับอายและทำให้มันเกิดความแพร่หลายยิ่งขึ้นเรื่อยๆไปทั่วโลก”
ก่อนอื่นต้องรวบรวมความกล้าและเปล่งเสียงออกมา
เป็นเรื่องที่จะบอกแก่นักคอสเพลย์และช่างภาพคอสเพลย์ว่ามารยาทเป็นสิ่งสำคัญ
ตอนที่คุณไปอีเว้นท์โดจิน เมื่อเห็นคนแต่งคอสเพลย์แล้วเคยคิดว่า “ฉันอยากถ่ายรูปจังเลย” บ้างไหม? แต่ก็คงมีบางคนที่มีประสบการณ์แบบว่า ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี และก็คงรู้สึกแย่หากว่าโดนปฏิเสธ ก็เลยยอมแพ้ไม่ได้ไปขอถ่ายรูป ในตรงนี้เราได้ขอคำแนะนำจากคุณBlackbeard ในฐานะของช่างภาพคอสเพลย์
“ตอนที่คุณอยากจะถ่ายภาพ คุณต้องมีความกล้าที่จะก้าวออกไป แต่ไม่จำเป็นต้องกล้าอะไรขนาดนั้น นักคอสเพลย์หลายคนคุ้นเคยกับการถูกถ่ายภาพ ดังนั้นเราก็แค่ถามว่า ขอถ่ายรูปได้ไหม? ซึ่งก็จะได้รับการตอบตกลงอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต มันจะกลายเป็นพวกแอบถ่ายได้ นอกจากนี้หากคุณต้องการอัปโหลดใน SNS ต้องขออนุญาตเสียก่อน คือนักคอสเพลย์บางคนอาจขอให้คุณรีทัชแต่งรูปให้ ซึ่งมันดูยังไงๆอยู่ แต่ว่าในกรณีแบบนี้ หากคุณอัปโหลดภาพสดที่ยังไม่ได้แต่ง คุณจะโดนโกรธได้ และก็เป็นเรื่องไม่ดีด้วยเนอะ”
นักคอสเพลย์เองก็ต้องการที่จะสวยเท่และน่ารักให้มากที่สุด ตัวหลักของภาพคือผู้ที่ถูกถ่าย หากคุณต้องการเผยแพร่ภาพที่คุณเป็นผู้ถ่ายก็ควรฟังคำขอของนักคอสเพลย์ด้วย และเขายังบอกอีกว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงแค่การรักษามารยาทที่ปฏิบัติต่อนักคอสเพลย์เท่านั้น แต่ยังต้องเคารพช่างภาพคอสเพลย์ด้วยกันเองด้วย
“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีนักคอสเพลย์คนดังเป็นที่นิยม เหล่าช่างภาพจำนวนมากต่างก็หันกล้องไปถ่าย เมื่อถึงคิวที่ผมต้องถ่ายรูป ผมต้องแน่ใจว่าจะไม่เสียเวลาอย่างไร้ประโยชน์ คือถ้าจะถ่ายต้องรีบถ่าย ผมคิดว่าการเคารพความความรู้สึกที่อยากถ่ายภาพของกันและกันเป็นสิ่งที่สำคัญ”
ไม่สำคัญว่าอุปกรณ์จะเป็นอะไรก็ตาม! คุณควรถ่ายภาพเมื่อคุณอยากจะถ่าย
ถ้าคุณชอบถ่ายภาพ ก็อย่าปิดกั้นความรู้สึกนั้น
เมื่อเห็นช่างภาพในงานคอสเพลย์ ก็มักจะเห็นคนถือกล้องเหมือนปืนบาซูก้า มองดูด้วยตาเปล่าก็รู้ได้ว่ามันเป็นกล้องที่ราคาหลายแสนเยนหรือแพงกว่านั้น ส่วนคนที่ถือกล้องนั้นถ่าย ก็รู้สึกว่ามีความลำบากเป็นอุปสรรคในตอนถ่าย… แต่ความจริงเป็นอย่างไรกันนะ?
“อ้อ มีคนที่ถือกล้องแบบโคตรสุดยอดจริงๆแหละ ราคาเลนส์แค่อย่างเดียวก็หลายแสนเยนแล้ว แต่ว่าผมไม่ได้มีกล้องที่แพงขนาดนั้นหรอก และคิดว่าถ้าอยากจะถ่ายภาพ แค่โทรศัพท์มือถือก็ถ่ายได้ และที่สำคัญยิ่งกว่าอุปกรณ์ ก็คือมารยาทในการขอถ่ายมากกว่า”
ต้องการความร้อนแรงมากกว่านี้!!
คุณBlackbeard ยังคงติดตามความงดงามของนักคอสเพลย์ในฐานะช่างภาพคอสเพลย์ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกเหงานิดหน่อย ก็เป็นเพราะนิสัยของโอตาคุญี่ปุ่นนั่นเอง
“ผมอยากจะสนิมสนมกับคนที่ชอบอนิเมะและพูดคุยกันอย่างถึงพริกถึงขิง แต่ผมรู้สึกประทับใจที่โอตาคุญี่ปุ่นหลายคนคุยกันเงียบๆ … อยากจะลองเปลี่ยนความร้อนแรงที่อยู่ภายในเปิดเผยสู่ภายนอกอย่างไม่ต้องเกรงกลัวอะไร ผมอยากเจอเพื่อนที่จะเป็นแบบนั้นนะ”
↓วิดีโอ
Blackbeard
Twitter:@blackbeardrevo
Follow @doujinworld
Writer
Shiro Sato