2021.02.21
【นักคอสเพลย์:นาชิโตะ 】เริ่มต้นทุกอย่างจากอะนิเมะ
นาชิโตะซังที่ยิ้มอย่างสดใสชวนให้นึกถึงเพลง “Shineba iinoni” ของ KAITO
ถ้าเขาใส่วิกผมนะ ที่อยู่ตรงนี้จะเป็นโอนี่ซัง(พี่ชาย)ชัดๆ
นี่เป็นการสัมภาษณ์ครั้งแรกกับนักคอสเพลย์ชาย จึงทำให้เราซึ่งรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าเล็กน้อย มีนักธุรกิจทางด้านการเงินที่มาดดูเรียบร้อยมาปรากฎอยู่ตรงหน้าของฉัน ไม่ได้เชิงบอกว่าเป็นความหมายที่ดีหรือไม่ดีนะ เอ๊ะ?? มีนักคอสเพลย์ที่บุคลิกสมาร์ทขนาดนี้ด้วยเหรอเนี่ย?? และก็..นำมาเปรียบเทียบกับอิมเมจที่อยู่ในหัวของฉันมาก่อนหน้านี้
คือในตอนแรกฉันคิดว่า ตอนที่เขามาถึงจะกล่าวทักทายประมาณว่า “อู้ววววว … ขอโทษนะ ผมทำให้คุณต้องรอ! มาแล้วๆ!” หรือว่า “ทุกคน เป็นเด็กดีรอกันอยู่หรือเปล่านะ☆” แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นเลย ผิดคาดมาก
แต่ว่า… เมื่อสวมวิกผมสีฟ้า ก็จะกลายร่างเป็น VOCALOID KAITO ที่มีรอยยิ้มเหมือนดวงอาทิตย์ส่องแสง … ฉันคงจะเรียกเขาว่า “พี่ชาย” ออกมาอย่างไม่รู้ตัว และพวกเรายังคงถูกบีบกระแทกหัวใจด้วยบุคลิกของการไปอยู่ที่พื้นด้านล่าง ด้วยเพลงดัง “Atakaito” ที่แสดงใน Magical Mirai
ฉันถามนาชิโตะซัง นักคอสเพลย์ที่สามารถพูดได้ว่าเป็น KAITOคนนั้น เกี่ยวกับวิถีชีวิตการแต่งคอสเพลย์ของเขา
“ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะคอสเพลย์หรอก ผมกับเพื่อนคนนึงที่เราเจอกันในงานพบปะ และเราก็บังเอิญไปอีเว้นท์ที่คลับ แม้ว่าจะเรียกว่าคลับ แต่มันไม่ใช่ร้านแบบที่มนุษย์เงินเดือนมาดื่มแอลกอฮอลล์กันแบบเฮฮาสนุกสนานนะ (หัวเราะ) เป็นคลับที่มีภาพลักษณ์ของฮิปฮอปชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่คลับอีเว้นท์ที่จะมีคนแนวเฮ้วๆผิวปากอะไรแบบนั้นอยู่ คลับที่ว่านี้ก็คือ Anikura ย่อมาจากAnison Club เป็นสถานที่ที่มีการเล่นเพลงอนิเมะ และเพลงโวคาลอยด์ สถานที่นี้เหมือนชิบูย่าหรือโอโมเตะซันโดหรือแหล่งวัยรุ่น ซึ่งลูกค้าบางคนเป็นคอสเพลย์และก็มีคนอื่นๆที่เป็นโอตาคุ มีคนมารวมตัวกันประมาณ 100 คนได้ ทำให้ความร้อนแรงในคลับสุดยอดมากเลยแหละ”
เบื้องหลังรอยยิ้มนั้น KAITO ที่ดูขี้โกงก็ถูกสร้างขึ้นเช่นกัน
ฉันรู้สึกถึงความลึกล้ำในฐานะนักคอสเพลย์ในการเปลี่ยนท่าทีการแสดงออกอย่างกะทันหัน
ถ้าคนรักอนิเมะและคนรักโวคาลอยด์มารวมตัวกัน ไฟที่กำลังร้อนระอุอยู่ในตัวจะถูกจุดขึ้นพร้อมกัน และนาชิโตะซังเองก็เหมือนกัน ดูเหมือนจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ภายในของเขาก็เผาไหม้หลอมรวมไปแล้ว
“คอสเพลย์ครั้งแรกที่ผมแต่งคือ ฮิบิคิ ดัน ใน Street Fighter IV ในเรื่องความแข็งแกร่ง อาจดูไม่แข็งแกร่งเท่าตัวละครหลักที่ชื่อ ริวหรือเคน แต่ว่าผมมองข้ามเขาไม่ได้ (หัวเราะ) เรื่องราวนี้ก็ประมาณ 10 ปีที่แล้ว และ 4 ปีต่อมาหลังจากนั้น เริ่มทำ VOCALOID KAITO ตอนนี้ในหมู่นักคอสเพลย์ ก็เรียกนาชิโตะว่า KAITO ผมมีชุดคอสเพลย์ประมาณ 30 ชุด และในจำนวนนั้น มีชุดของKAITO อยู่ 10 ชุด แม้ว่าจะบอกว่า ก็แค่หนึ่งตัวละครใน VOCALOID แต่มันก็มีเสื้อผ้าหลายแนวซึ่งขึ้นอยู่กับเพลงนั้นๆ และชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้คือผลงานที่ผมทำขึ้นมาเอง”
ผู้คนมักคิดว่างานฝีมือเป็นงานอดิเรกของผู้หญิง แต่ในวงการของคอสเพลย์ไม่ใช่อย่างนั้นเลย และถ้ามีสิ่งที่คุณต้องการคุณก็ต้องทำขึ้นมาด้วยตัวเอง
“ผมค้นหาวิธีการทำชุดเครื่องแต่งกายบนอินเทอร์เน็ต และยังแจกแพทเทิร์นฟรีให้คนอื่นอีกด้วยนะ มีหลายครั้งที่รู้สึกว่าการที่เราค้นคว้าและทำขึ้นมาด้วยตัวเอง ก็มีความยากลำบากเหมือนกันนะ จึงทำให้เรารู้สึกผูกพัน ในจำนวนชุดเครื่องแต่งกายคอสเพลย์ที่ทำขึ้นเอง มีชุดที่ตั้งใจทำเป็นพิเศษ คือชุดเกราะของตัวละครหลัก Adol-Christin จากYs (Series) ขอโทษที่ไม่ใช่ชุดของ KAITO (หัวเราะ) ฉันทำมันขึ้นมาจากวัสดุที่เรียกว่าซอฟต์บอร์ด ทั้งตัดทั้งดัดเองค่อนข้างลำบากมากเลยทีเดียว Ysเป็นเกมที่ผมชอบมาตั้งแต่สมัยเด็ก และตอนสวมใส่ชุดก็รู้สึกประทับใจจริงๆนะ แล้วชุดคอสเพลย์ของ Ys ไม่ค่อยมีวางขายเท่าไรนัก จึงต้องทำขึ้นมาเองค่อนข้างเยอะ นั่นคือเหตุผลที่นักคอสเพลย์ Ys มีพลังงานที่สุดยอดเหลือเกิน ซึ่งตรงข้ามกับคอสเพลย์ VOCALOID ที่มีผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์วางขายมากมาย คือแม้แต่มือใหม่ที่กำลังเริ่มคอสเพลย์ก็สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย”
ผลงานชิ้นเอกของนาชิโตะซัง ” Adol’s Silver Armor” ใน Ysซีรีส์ ดูเหมือนจะมีพลังป้องกันสูง!
นาชิโตะซังผู้สร้างชุดเกราะของตัวเอง การเปลี่ยนหน้าที่จากนักธุรกิจไปเป็นช่างตีเหล็กเป็นอย่างไรบ้าง? อยากจะเล่นมุกดูแต่ก็อดทนไว้ก่อน ความร้อนแรงของคอสเพลย์มีความเปิดกว้างในชีวิตประจำวันหรือไม่?
“ผมไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนว่า ตัวเองเป็นนักคอสเพลย์! อาจจะรู้สึกอายเล็กน้อยถ้าถูกจับได้ แต่ผมไม่ได้ทำสิ่งเลวร้ายแต่มีความชอบในสิ่งนี้ ถ้ามีคนมาถามผมก็จะตอบว่าเป็นนักคอสเพลย์ … มีวันหนึ่งระหว่างทางกลับจากอีเว้นท์นึง ผมก็บังเอิญเจอเพื่อนร่วมงานที่บริษัท ก็คิดแล้วว่า ถูกจับได้แน่นอน แต่อีกฝ่ายก็ลากกระเป๋าใบใหญ่ เอ๊ะ? หรือจะเป็นโอตาคุ? ใช่แล้ว ผมก็เป็นเหมือนกัน(หัวเราะ) หลังจากนั้นผมก็สนิทกับเพื่อนร่วมงานที่บริษัทคนนั้นมากขึ้น”
มองย้อนกลับไปในความทรงจำของวันนั้น เป็นการกลั่นแกล้งของโชคะตาจริงๆนะ
มาเคลียร์สะสางปัญหาแทนที่จะกระโดดหนีดีกว่า มันเป็นการกลั่นแกล้งของโชคชะตา
แต่ตอนนี้กระแสความตื่นตัวในการคอสเพลย์กำลังแพร่กระจายไปในสังคม มันอาจจะเป็นการเปิดเผยงานอดิเรกใต้ดิน ในขณะเดียวกันก็สามารถคาดหวังได้ว่า จำนวนของคนที่ต้องการรับความท้าทายในการลองทำได้เพิ่มขึ้น
“สำหรับคนที่อยากทำก็ลองทำดูก่อนสิ! อยากจะพูดแบบนั้น แต่ก็รู้สึกกังวลว่าจะทำอย่างนั้นไม่ได้ ในตอนนั้น ให้เขียนสิ่งที่กังวลอยู่ เช่น ไม่มีเครื่องแต่งกาย หรือไม่รู้ว่าอยากแต่งเป็นตัวละครไหนดี แล้วแก้ปัญหาดังกล่าวทีละข้อคุณก็จะสามารถทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ มันต้องใช้ความกล้าที่จะกระโดดเข้ามาอย่างกะทันหัน ดังนั้นเราควรก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว และก็เข้าร่วมอีเว้นท์ของจริงเป็นเพื่อนกับคนอื่นๆ หรืออาจะสนุกกับการคอสเพลย์คนเดียวที่บ้าน แต่ท้ายที่สุดแล้วฉันต้องการให้เกิดความแพร่กระจายไปทั่วโลก สามารถแบ่งปันความชอบกับเพื่อนๆได้ อาจจะเกิดความประหม่า แต่อยากให้คุณไปที่อีเว้นท์และลองถามคอสเพลย์คนอื่นๆว่า ขอถ่ายรูปได้ไหม? คิดว่าพวกเขาต้องตอบรับอย่างรวดเร็วแน่นอน”
การการสร้างชุดคือการสร้างเพื่อน … ชีวิตคอสเพลย์ที่เพียงแค่จินตนาการก็ตื่นเต้นแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม โดยเฉพาะผู้ชายที่จะต้องจับศีรษะแล้วแต่งหน้า
“แน่นอนผมไม่ได้แต่งหน้าเลยจนกว่าจะแต่งคอสเพลย์ มองไปที่การแต่งหน้าของคนรอบตัว เราต้องมีอุปกรณ์แต่งหน้าทั้งหมดและก็พยายามเลียนแบบรูปร่างหน้าตานั้นๆ หลังจากนั้นก็ได้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆไปเรียนแต่งหน้ากันที่คาราโอเกะ ซึ่งแตกต่างจากการแต่งหน้าของผู้หญิงทั่วไป คือการแต่งหน้าคอสเพลย์มักจะเลือกแนวอย่างชัดเจน ดังนั้นคิดว่ามันง่ายสำหรับผู้ชายที่จะทำ”
เป็นอีกหนึ่งรูปที่ทำให้หลงรักพี่ชายKAITO
มาร่วมปาร์ตี้ด้วยกันเถอะ!!
สุดท้ายนี้ ก็เป็นข้อความของนาชิโตะซังผู้หลงรักอานิกุระ ที่อยากส่งถึงชาวคอสเพลย์ทั่วโลกที่อ่านบทความนี้อยู่
“ชาวคอสเพลย์ต่างชาติทั้งหลาย มาร่วมคอสเพลย์ด้วยกันในอีเว้นท์ที่ญี่ปุ่นกันเถอะนะ! แน่นอนว่าผมเองก็อยากไปงานคอสเพลย์ที่ต่างประเทศเหมือนกัน และมาปาร์ตี้ ดื่ม ร้องเพลงให้มันส์กันเถอะ!”
นาชิโตะ Twitter:@nasito13
Follow @doujinworld
Writer
Shiro Sato