🇹🇭
🇹🇭

2021.03.06

【Cosplay performer : ซารามิ】สนุกกับงานอดิเรก โดยไม่รู้สึกว่าเป็นหน้าที่!

 

คุณซารามิที่ปรากฏตัวในเครื่องแต่งกายของชินอิจิโจ แห่ง KING OF PRISM

 

 

นี่คือความรัก! ที่ร่างกายจดจำ ไม่ใช่สมอง

เต้นขณะที่คอสเพลย์ไปด้วย! !!ซารามิซังนักแสดงคอสเพลย์  นี่มันเป็นคำแนะนำตัวของมาโกโตะซัง ที่เราสัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้นี่นา หากคุณดูที่ Twitter คุณจะพบกับวิดีโอการเต้นที่เฉียบคม คุณภาพที่ดูเหมือนจะหลุดออกมาจากโลกของ KING OF PRISM สมแล้วที่จะบอกว่าเป็นการ “ทุ่มเททั้งชีวิต” และยังรู้สึกได้ถึงความรัก

 

“ ไม่นะ มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”

 

ซารามิซังที่เริ่มพูด ก็มีความถ่อมตัวแบบนี้…

 

“ ตอนที่ยังเป็นนักเรียน เคยฝึกซ้อมเต้นกับเพื่อน ๆ แต่ตอนนั้นเต้นแย่มาก ในตอนนั้นจะเต้นกันเป็นกลุ่ม และฉันก็เต้นในตำแหน่งข้างหลังที่มักจะไม่ค่อยเด่นสะดุดตาเท่าไร ส่วนวิดีโอที่อัปโหลดในทวิตเตอร์ อันนั้นก็แทบไม่ได้ซ้อมเต้นเลย”

 

หืม…แต่ไม่สามารถที่จะเต้นได้แค่ในช่วงเวลาสั้นๆใช่ไหมละ… เพราะท่าเต้นนั้นสมบูรณ์แบบมาก! เราเริ่มที่จะสงสัยแล้วสิ…

 

“มันคือเรื่องจริง (หัวเราะ) ตอนที่ถ่ายวิดีโอนั้น บังเอิญว่าสตูดิโอกำลังว่างอยู่พอดี ก็เลยไปเต้นกัน!  และท่าเต้นก็เป็นแบบการเต้นโดยธรรมชาติของร่างกาย คือว่าแค่หนังเรื่อง KING OF PRISM ก็เคยดูซ้ำๆประมาณ 80 ครั้งได้ ตัวเองก็เลยเหมือซึมซับมันไปด้วย (หัวเราะ) นอกจากนี้ ยังเป็นการฉายแบบพิเศษที่สามารถเขย่าแท่งไฟไซเลี่ยม หรือส่งเสียงร้องระหว่างการฉายภาพยนตร์ได้ด้วย เมื่อเข้าไปมีส่วนร่วมตรงนั้น ร่างกายเลยเรียนรู้และจดจำการเต้น และก็ไม่ได้ดูแค่ภาพยนตร์เท่านั้นนะ แต่ยังดูอนิเมะอีกหลายครั้งเลยด้วย แต่ก็มีท่าเต้นที่ไม่สามารถเข้าใจได้จากภาพยนตร์และอนิเมะ ดังนั้นก็เลยสร้างท่าเต้นขึ้นมาเองซะเลย ”

 

อะไรนะ… ดูหนังเรื่องเดียวซ้ำๆ 80 ครั้ง … คุณสามารถรู้ลึกถึงความรักได้ตั้งแต่ตรงนั้นสินะ

 

ร่างกายจดจำท่าเต้นได้! นั่นมันเป็น… ความรักที่ลึกซึ้งเกินไปแล้ว

 

 

 

เมื่อรู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นเซอร์เคิลของนักแสดงคอสเพลย์อย่างสมบูรณ์ไปแล้ว!

ความจริงแล้ว ซารามิซัง ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ก่อตั้งเซอร์เคิลของนักแสดงคอสเพลย์ ซึ่งมีมาโกโตะซังที่เราได้แนะนำให้ทุกท่านรู้จักก่อนหน้านี้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งด้วย ปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าร่วมอยู่ 10 คนขึ้นไป และเขาก็มีการเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง ดังเช่นปรากฏตัวในงานอีเว้นท์ต่างๆ

 

“ ในตอนแรก ไม่ได้คิดที่จะทำให้เป็นกลุ่มคณะแบบนี้นะ คือจะบอกว่า อยู่ๆมันก็กลายเป็นมีคนจำนวนมากมาเข้าร่วม…ตอนแรกกำลังทำคอสเพลย์ของ King & Prince กับเพื่อนแค่สองคน ในตอนนั้นก็อยากให้มีเมมเบอร์ครบคนจังเลยเนอะก็พูดกับเพื่อนไป และก็ได้มีเด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นคอสเพลย์ของ King & Princeอยู่แล้วมาพูดคุยด้วย หลังจากนั้นก็ทวีตในทวิตเตอร์ จากนั้นจำนวนคนก็เพิ่มขึ้น ”

 

การเชื่อมสัมพันธ์คนที่รัก KING OF PRISM เหมือนกัน เป็นเรื่องค่อนข้างง่ายสินะ?

 

“ แต่ว่า เราไม่ได้ทำกิจกรรมของเซอร์เคิลจริงจังขนาดนั้นนะเพราะว่าถ้ามีการกำหนดกฎระเบียบและวันฝึกซ้อมขึ้น มันจะทำให้รู้สึกว่า เราต้องให้ความสำคัญกับมันเป็นอันดับแรก ความสนุกก็จะกลายเป็นทำงาน … มันเหมือนกับภาระหน้าที่ที่ต้องทำ การที่เริ่มต้นสิ่งนี้ขึ้นด้วยความสนุก ก็ให้มันเป็นแค่ความสนุกก็พอ เพราะการเป็นนักแสดงคอสเพลย์คืองานอดิเรก ”

 

ยิ่งมีคนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีข้อจำกัดที่ต้องรักษาความสงบเรียบร้อย การที่มีสภาพแวดล้อมที่สมาชิกทุกคนสามารถสนุกกับตัวเองเหมือนเป็นงานอดิเรกได้นั้น เพราะพวกเขาได้ลบกฎเกณฑ์ในแบบของกลุ่มองค์กรออกไปก็เป็นได้

 

“มีกิจกรรมเชิญชวนให้มาคอสเพลย์กับเพื่อนนอกเซอร์เคิลกันเถอะ … ก็เป็นการร่วมสนุกที่ดีเลย เช่นดูการแข่งขันโบว์ลิ่งหรือดูDVDขณะคอสเพลย์อยู่ แน่นอนว่าได้รับอนุญาตให้ใช้สถานที่ในการจัดงานเรียบร้อยแล้ว (หัวเราะ) นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจคืออีเว้นท์ที่มีการไขปริศนา เราได้เช่าสตูดิโอเป็นบ้านหนึ่งหลัง และแบ่งออกเป็นฝั่งที่สร้างความลึกลับทำให้หลงทางและฝั่งการไขปริศนาเอาไว้ เพียงแค่ตัดสินใจเลือกบทบาทกับตัวละครก็สามารถสนุกตื่นเต้นได้! ”

 

ซารามิซังเล่าว่า มันสนุกมากที่ได้เห็นตัวละครที่เราชื่นชอบกำลังไขปริศนาอยู่!

 

 

 

เมื่อก่อนไม่ได้มีความสนใจโดจินเลย! แต่ว่า…

กิจกรรมของซารามิซัง อาจกล่าวได้ว่าเป็นกิจกรรมโดจินที่ดีเยี่ยมเลยในตอนนี้  แต่เล่าว่าในอดีตไม่ได้มีความสนใจเลย

 

“เมื่อก่อน ไม่เคยสนใจคอสเพลย์หรือโดจินชิมาก่อนเลย เคยแต่งคอสเพลย์มาประมาณ 4 ปีแล้ว แต่ก็แค่เป็นการเลียนแบบทรงผมของตัวละครในอนิเมะที่ชอบ เคยทำผมเป็นสีแดงสดด้วยนะ ในตอนนั้นทำงานที่บาร์ของตัวเอง มีการตั้งเป้าไว้ว่า อยากให้มันมีความรู้สึกเหมือนเป็นบาร์ที่ทันสมัย ​​แต่อาจเป็นเพราะทำเลที่ตั้งละมั้ง จึงทำให้มีลูกค้าที่เป็นโอตาคุเข้ามามากมาย และเป็นเพราะตัวฉันเองก็มีทรงผมของตัวละครเลิฟไลฟ์ พวกลูกค้าเลยนำพวกสิ่งของสินค้า และโปสเตอร์มาแปะติดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็นวอลล์เปเปอร์ของเลิฟไลฟ์เลย … จากนั้นก็มีวงดนตรีที่เป็นลูกค้าในบาร์นั้น มาชวนขึ้นเวทีแสดง นั่นแหละคือจุดเปลี่ยน”

 

ในขณะที่ร้านโปรดของเขาถูกย้อมให้กลายเป็นเลิฟไลฟ์ ในจังหวะเดียวกันนั้น ซารามิซังก็ค่อยๆย้อมตัวเองให้กลายเป็นโดจินชิอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าคอสเพลย์ครั้งแรก ก็คือเลิฟไลฟ์นั่นเอง

 

“ฉันค่อนข้างตัวสูง ก็เลยมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการแต่งเป็นตัวละครหญิง รู้สึกว่าฉันแต่งหน้าเยอะมาก และก็รู้สึกกังวลว่ามันจะดูแปลกถ้าไม่แต่งหน้าให้หนาๆ ด้วยสาเหตุนี้ ก็เลยพยายามแต่งหน้าให้เข้มขึ้น และจากนั้นเพื่อนก็บอกว่า น่าจะลองแต่งตัวเป็นผู้ชายดูนะ การที่แต่งเป็นตัวละครหญิงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆเพราะเราเป็นผู้หญิง แต่ตัวละครชายซึ่งมีความแตกต่างทางเพศ(เป็นเพศตรงข้าม)  น่าจะเป็นเรื่องดีนะที่สามารถทำสิ่งต่างๆได้อย่างอิสระ ”

 

รอยยิ้มที่ไม่มีความลังเล!

 

 

มีทั้งหมด 70 ชุด! เครื่องแต่งกายมากมายที่ได้ทำขึ้นมาด้วยตัวเอง

ความมุ่งมั่นของซารามิซัง คือการทำเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเธอเอง เมื่อเข้าเรียนในโรงเรียนเฉพาะทางด้านแฟชั่นแล้ว ก็รู้ว่ามีทักษะนี้อยู่ในตัว เสื้อผ้าที่แต่งมาในวันนี้ก็ถูกเลือกมาอย่างเป๊ะ

 

“ถ้านับการรีเมคด้วย คิดว่าฉันทำชุดไปแล้วประมาณ 70 ชุดนะ ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีการทำชุดตามที่รีเควสด้วยนะ เมื่อก่อนเคยทำเสื้อผ้าของสมาชิก ทั้งหมด 18 ชุดทีเดียวพร้อมกัน สำหรับใส่ในงานคอสเพลย์ด้วย… มาคิดตอนนี้รู้สึกเสียดาย (หัวเราะ)”

 

แค่ทำชุดเดียวก็รู้สึกว่าลำบากแล้ว แต่นี่เกือบ 20 ชุด… แค่คิดมันก็ทำให้รู้สึกหนักใจแล้ว

 

“แม้ว่าฉันจะเรียนด้านเสื้อผ้า แต่ก็มีวิธีการทำเสื้อผ้าคอสเพลย์ที่อาจแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เสื้อผ้าทั่วไปบางชุดก็สามารถมีรูปทรงเกินกว่าที่คนจะคาดคิดก็ได้ ดังนั้นต้องระวังอย่าจมอยู่กับกรอบแบบแผน อย่าปิดกั้นความคิดและอย่าหัวแข็ง … มันอาจจะใกล้เคียงกับงานฝีมือมากกว่าการเย็บผ้า ”

 

ได้ยินมาว่า ชุดคอสเพลย์ไม่เพียงตัดเย็บร่วมกับวัสดุ เช่นผ้าดิบเท่านั้น แต่ยังใช้เทปกาวสองหน้าอีกด้วย และมีการใช้ถ้วยกระดาษเพื่อสร้างวอลลุ่มในการทำทรงผมของตัวละคร เป็นการทำขึ้นอย่างมีอิสระเสรี เรียกได้ว่าเป็นความสุขที่แท้จริง จากการที่เป็น โดจิน

 

“ใช่แล้ว! ฉันไม่มีความรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ ที่ต้องทำแบบนี้เท่านั้น ถ้าไม่ทำแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันมีอิสระที่จะแต่งกายและสนุกกับแต่งคอสเพลย์ เป็นเรื่องที่ดีที่จะชาเล้นท์โดยไม่ต้องคิดให้ลึกซึ้ง แต่บางที ทั้งที่เราควรจะรู้สึกสนุก แต่พอมีคนมาสนับสนุนติดตามมากขึ้น ทำให้ต้องตอบสนองต่อคนเหล่านั้นที่มาสนับสนุน … จนมีความรู้สึกว่าเป็นงานหรือหน้าที่เข้ามาปะปน ดังนั้น ฉันจึงรู้สึกสนุกอย่างเป็นอิสระ ไม่ต้องเกรงใจใคร เพราะมันเป็นงานอดิเรก ! นี่แหละคือจุดยืนของฉัน ”

 

คุณภาพสูงจนไม่คิดว่าเป็นชุดที่ทำขึ้นเอง สมแล้วที่เรียนตัดเย็บเสื้อผ้า

 

 

ซารามิ

 

Twitter : @sarami_p

 

 




Writer

Shiro Sato

Related Posts